Whalesync สำหรับ Webflow — ซิงก์สองทาง Airtable/Notion ↔ CMS

ซิงก์สองทางแบบเร็วระหว่าง Airtable/Notion ↔ Webflow CMS ตั้ง mapping ครั้งเดียว แล้วแก้ที่ไหนก็อัปเดตอีกฝั่งอัตโนมัติ เหมาะงานบล็อก/แคตตาล็อก ลดการคีย์ซ้ำ
*ลิงก์ที่ปุ่มเป็นลิงก์แบบ Affiliate ถ้าคุณซื้อคลิกและซื้อซอฟต์แวร์ตัวนี้ Vision x Brain จะได้รับค่าแนะนำ โดยที่คุณไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม

Whalesync คือเครื่องมือซิงก์ สองทาง ระหว่าง Airtable/Notion กับ Webflow CMS ตั้ง mapping ครั้งเดียว แล้วแก้ที่ไหนก็อัปเดตอีกฝั่งอัตโนมัติ เหมาะกับบล็อก แคตตาล็อก และโปรเจกต์ที่ทีมแก้ข้อมูลทั้งสองฝั่ง ลดการคีย์ซ้ำและความคลาดเคลื่อน.

Bidirectional Airtable Notion Webflow CMS No-code

ข้ามไป: เวิร์กโฟลว์ · วิธีตั้งค่า · เปรียบเทียบ · เช็กลิสต์ · FAQ

Whalesync คืออะไร (สรุปย่อสำหรับ Webflow)

  • ซิงก์สองทางจริง: เปลี่ยนฝั่งไหน อีกฝั่งอัปเดตตาม ลดงานคีย์ซ้ำ
  • ตั้งค่าครั้งเดียว: เลือกแหล่งข้อมูล → ตั้ง mapping ฟิลด์ → เปิดซิงก์
  • โครงข้อมูลตรงไปตรงมา: เหมาะฟิลด์ข้อความ, หมวดหมู่, รูป (URL), รีเลชันพื้นฐาน
  • จำกัดการแปลงข้อมูล: ถ้าต้องลอจิกหลายกิ่ง/แปลงหนัก ให้พิจารณา Make/Zapier

กำหนด Primary key ให้ชัด (เช่น Slug หรือ External ID) เป็นตัวจับคู่เรคคอร์ดเพื่อกันซ้ำ/กันชนกัน

ตาราง: เวิร์กโฟลว์ยอดนิยม Whalesync ↔ Webflow

กรณีใช้งานโฟลว์ผลลัพธ์
บล็อก/คอนเทนต์ทีม Airtable (บทความ) ↔ Webflow CMS (Posts) — แมปฟิลด์ Name/Slug/Summary/Body/Image แก้ที่ Airtable หรือ Webflow ก็ได้ ข้อมูลตรงกันเสมอ
แคตตาล็อกสินค้า/บริการ Airtable (Products) ↔ Webflow CMS (Catalog) — ราคา/สต็อก/ภาพ อัปเดตล็อตใหญ่จาก Airtable และแก้จุดย่อยที่ Webflow ได้
ฐานความรู้จาก Notion Notion (Database) ↔ Webflow CMS (Docs/FAQ) ทีมเขียนใน Notion ผู้ใช้เห็นบนเว็บทันที

อยากได้เทมเพลต Mapping Whalesync ↔ Webflow (บล็อก/แคตตาล็อก/FAQ)? คุยกับทีม Vision X Brain

How-to: ตั้ง Whalesync ↔ Webflow ใน 6 ขั้น

  1. เตรียมสคีมา: ตรวจฟิลด์ใน Airtable/Notion ให้ตรงชนิดกับ Webflow CMS
  2. เชื่อมแหล่งข้อมูล: เลือกคู่ซิงก์ (Airtable/Notion ↔ Webflow) และอนุญาตสิทธิ์
  3. ตั้ง Mapping: จับคู่ฟิลด์ (Name/Slug/Summary/Body/Image URL/Category/Reference)
  4. เลือก Primary key: ใช้ Slug หรือ External ID เป็นตัวระบุเรคคอร์ด
  5. กำหนดทิศทาง: One-way ช่วงแรก (Airtable → Webflow) แล้วค่อยเปิด Two-way
  6. ทดสอบ & เปิดจริง: ทดสอบ 5–10 เรคคอร์ด, ตั้ง Error alert, แล้วเปิดทั้งชุด

ตาราง: เปรียบเทียบวิธีซิงก์กับทางเลือกอื่น

วิธีเหมาะกับข้อดีข้อควรระวัง
Whalesync (สองทาง) ทีมที่แก้ทั้งสองฝั่งบ่อย ตั้งครั้งเดียว ใช้ง่าย ไม่ต้องโค้ด แปลงข้อมูลซับซ้อนน้อยกว่า Make/Zapier
Make / Zapier (ทางเดียว/กึ่งสองทาง) โฟลว์มีลอจิก/ตัวกรอง/แตกกิ่ง ยืดหยุ่นสูง ควบคุมขั้นตอนละเอียด ต้องดูแลโควตา/เรตลิมิต และ mapping เอง
Custom API องค์กรที่ต้องคัสตอมหนัก คุมทุกอย่างได้ ใช้ Dev/ดูแลโค้ด & เวอร์ชัน

เช็กลิสต์ก่อนขึ้นโปรดักชัน

  • กำหนด Primary key เดียวกันทั้งสองฝั่ง (เช่น Slug/External ID)
  • ล็อก สิทธิ์แก้ไข (ใครแก้ฝั่งไหน) เพื่อลดคอนฟลิกต์
  • รูปภาพใช้ URL สาธารณะ/CDN และตรวจขนาดไฟล์
  • ทดสอบ รีเลชัน/หมวดหมู่ ให้ตรงชนิด (Reference/Multi-reference/Option)
  • เริ่มแบบ One-way → Two-way เมื่อมั่นใจคุณภาพข้อมูล
  • ตั้ง Error alert และ Backups ก่อนเปิดทั้งโปรเจกต์

บริการ/คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง (Internal Links)

FAQ (People Also Ask)

จำเป็นต้องใช้สองทางเสมอไหม?
ไม่จำเป็น—ถ้าทีมแก้ข้อมูลฝั่งเดียว (เช่น Airtable → เว็บ) ใช้ Make/Zapier ก็พอ ประหยัดกว่า

คอนฟลิกต์เกิดขึ้นได้ยังไง?
เกิดเมื่อแก้เรคคอร์ดเดียวกันพร้อมกันทั้งสองฝั่ง—ลดได้ด้วย Primary key ที่ชัดและกำหนดสิทธิ์แก้ไข

รองรับฟิลด์ชนิดไหนบ้าง?
ฟิลด์ข้อความ, หมวดหมู่, รูป (URL) และรีเลชันพื้นฐาน รองรับดี—ถ้าฟิลด์แปลกอาจต้องทดสอบก่อน

อัปเดตล่าสุด: 10 Aug 2025

แชร์

Integration Insights

Make (Integromat) สำหรับ Webflow — ออโตเมชัน No-code

ออโตเมชัน No-code สำหรับ Webflow: ฟอร์ม→CRM/Sheets, สร้าง/อัปเดต+Publish CMS และแจ้งเตือนทีม—เริ่มไว ใช้งานได้จริงสำหรับทีมไทย

Zapier สำหรับ Webflow — เริ่มไว เทมเพลตเยอะ

ออโตเมชัน No-code สำหรับ Webflow ที่เริ่มไวและเทมเพลตเยอะ—ดันฟอร์ม→CRM/Sheets, Create/Update CMS และ (ถ้าต้องการ) Publish/Live ผ่าน Webhooks ได้ พร้อมเวิร์กโฟลว์ตัวอย่างใช้งานจริง

n8n สำหรับ Webflow — ออโตเมชันโอเพนซอร์ส (Self-hosted)

ออโตเมชันโอเพนซอร์สที่โฮสต์เองได้ เชื่อม Webflow ผ่าน Webhooks/HTTP node สร้าง–อัปเดต–Publish CMS อัตโนมัติ คุมต้นทุน/ความปลอดภัยได้ เหมาะทีม Dev/IT