WordPress ยังไม่ตาย... แต่ Webflow คือทางรอดใหม่ของธุรกิจยุค 2025
ธุรกิจที่เคยใช้ WordPress กำลังพบปัญหาเดิมซ้ำ ๆ: เว็บช้า, ปลั๊กอินพัง, อัปเดตแล้วเว็บพัง
เราช่วยลูกค้าหลายรายย้ายมา Webflow — ได้เว็บเร็วกว่า เสถียรกว่า และทีมในบ้านดูแลได้เอง
นี่คือเหตุผลที่เจ้าของธุรกิจและเอเจนซี่สาย growth-first กำลังเปลี่ยนมาใช้ Webflow เป็นตัวจริง

อยู่กับ WordPress มานาน อาจเป็นเหตุผลที่ทีมของคุณ “ขยับช้ากว่าที่ควร”
แต่เพราะระบบเดิมเริ่มกลายเป็น “ภาระที่ทำให้ทีมเสียจังหวะ” มากกว่าจะช่วยให้เติบโต
🧩 เปลี่ยนอะไรนิดเดียว ก็ต้องรอ Dev
🔍 ไม่มีข้อมูล UX ใช้ตัดสินใจ → ต้องเดา
⚠️ ระบบพังง่าย เพราะพึ่งปลั๊กอินหลายตัว
🚧 โหลดช้า SEO ไม่พร้อม — เว็บคุณติดหล่ม?
คนเข้าเว็บเยอะ แต่ UX ไม่ชัด / โหลดช้า → ไม่คลิก → ไม่อ่าน → ไม่ซื้อ ทุกวินาทีที่โหลดช้า = ลูกค้าเปลี่ยนใจไปเว็บอื่นแล้ว
ยิงแอดก็เท่านั้น ถ้า Landing Page โหลดช้า / Core Web Vitals ไม่ผ่าน → CAC สูงลิ่ว
Webflow vs WordPress : ไม่ใช่เรื่องว่า “ใครดีกว่า” แต่คือ “ทีมคุณเหมาะกับอะไรมากกว่า”
ใช่ — ถ้าคุณมี Dev เก่ง ก็ปรับเว็บให้เร็วแรงได้ทุกอย่าง
และใช่ — WordPress ทำได้ทุกสิ่ง ถ้ามีทรัพยากรพร้อม
แต่...คำถามจริง ๆ คือ
❝ ทีมของคุณมี Dev ระดับนั้นในทุกขั้นตอนจริงหรือเปล่า? ❞
✅ แล้วใครเหมาะกับ Webflow?
• อยากให้เว็บโหลดเร็ว + SEO ดี โดยไม่ต้องลงปลั๊กอินซ้ำซ้อน
• ต้องการเว็บที่เสถียร ไม่พังทุกครั้งที่ปลั๊กอินหรือ Core อัปเดต
• ชอบทำ A/B Test, ปรับ Landing Page, ลองของใหม่ได้เร็วแบบ Agile
❝ สรุป: WordPress เหมาะกับทีมที่มี Dev เก่งและพร้อมเทสต์ทุกจุด แต่ Webflow เหมาะกับทีมที่อยาก “ทำงานเร็วแบบโปร” โดยไม่ต้องพึ่งใครเยอะ ❞
Webflow ให้ทีมแก้หน้าเว็บได้ทันที ทั้ง Marketing / UX / Content ทำเองได้
ที่ CAS GROUP เราเชื่อว่าไม่มีองค์กรใดเติบโตได้เพียงลำพัง หากเติบโตไปพร้อมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายถึงจะเป็นการเติบโตไปด้วยกันอย่างเป็นสุขและยั่งยืน



@visionxbrain คุณต้าร์ครับ พอเป็นไปได้ไหมครับโปรเจคนี้ ทุกหน้าจะมีการออก แบบไม่ซ้ำกัน และเป็น CMS ทั้งหมด ผมขอ PageSpeed 80 ขึ้นนะครับ
34 นาทีที่แล้ว

ส่ง



ซื้อขายคริปโตกับ BOTMOON
Webflow คือเว็บที่ Google เข้าใจง่าย คนใช้งานก็ชอบ → ติดอันดับไว + มีลุ้นขึ้น AI Overview
แต่ Webflow วางระบบมาคลีน พร้อมใช้ตั้งแต่ต้น = มีแต้มต่อแบบไม่ต้องพึ่งปลั๊กอิน
Webflow สร้าง UX ที่ดีขึ้น = คนอยู่เว็บนานขึ้น → Conversion สูงขึ้น

ด้านการตลาด
ธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress มา Webflow โต 3-10 เท่าใน 90 วัน เริ่มจากเว็บไซต์ที่ “คิดให้โต” ไม่ใช่แค่สวย
เราไม่ได้แค่ย้ายเว็บจาก WordPress มา Webflow — แต่เรายกเครื่องใหม่ด้วย Conversion Framework ที่ผสาน UX + SEO + CRO เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่โหลดไวขึ้น 3X, ใช้งานง่ายขึ้น, และเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้า พิสูจน์แล้วกับธุรกิจ B2B, E-Commerce, Tech Startup และองค์กรขนาดใหญ่
🔥 ไม่ใช่แค่เปลี่ยนจาก WordPress — แต่เปลี่ยนธุรกิจให้โตไวด้วย Webflow
ที่ Vision X Brain เราออกแบบ UX เพื่อเพิ่ม Conversion 10X 🚀
โหลดไวกว่าเดิม 3 เท่า พร้อมระบบที่ทีมของคุณใช้งานได้เอง
📈 ฟังจากเจ้าของแบรนด์จริง ว่าทำไม Webflow ถึงเป็นตัวเลือกที่ใช่
เมื่อ “เว็บ” ไม่ควรเป็นแค่หน้าร้าน — แต่มันต้องขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ
หลังรีแบรนด์กับ Vision X Brain ยอดขายพุ่ง x3 ภายใน 2 เดือน!


เปลี่ยนเว็บกับ Vision X Brain แค่ไม่กี่วัน ลูกค้าใหม่เริ่มเข้าใจธุรกิจเราทันที


ก่อนปรับ UX คนเข้าเว็บแล้วออกเลยค่ะ แต่พอรีดีไซน์ใหม่ กลายเป็นจุดที่ปิดการขายได้ดีที่สุดแทน!


หลังจากเปลี่ยนเว็บไซต์กับ Vision X Brain ผู้ใช้งานกล้ากดทดลองระบบตั้งแต่หน้าแรก — ไม่ต้องตาม โทร หรืออธิบายซ้ำอีก


คำถามยอดฮิตเรื่อง “ย้ายมา Webflow” — เคลียร์ให้จบ ก่อนเริ่มจริง!
🚀 Webflow + UX เชิง Conversion + SEO ที่ติดอันดับไว ใช้งานจริงได้ทุกวัน
💡 อ่านคำตอบด้านล่างให้ครบ → แล้วคุณจะรู้ว่า Webflow คือจุดเปลี่ยนที่ธุรกิจคุณรออยู่
เพราะสิ่งที่ “ดี” อาจไม่พอสำหรับ “ธุรกิจที่อยากโตเร็ว” → Webflow ไม่ได้มาแทน WordPress ทุกเคส แต่ถ้าธุรกิจคุณต้องการความเร็ว, ความยืดหยุ่น, และ UX ที่ขับเคลื่อน Conversion แบบ 10X — Webflow คือทางเลือกที่ชัดเจนกว่า
จริงในบางจุด แต่ “ความสามารถเฉพาะทาง” ก็เหมือนอาวุธลับ → Webflow ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างเว็บไซต์คุณภาพสูงแบบไม่ต้องแบกน้ำหนักของระบบที่เกินความจำเป็น
ธุรกิจที่ต้องการ “โตอย่างเร็ว ไม่ติดโค้ด ไม่ต้องพึ่งนักพัฒนาเต็มเวลา” เช่น B2B SaaS, Tech Startup, แบรนด์ที่เน้น UX และ Conversion หรือทีมที่อยากปรับแก้เองได้
ใช่ — โครงสร้างโค้ดของ Webflow สะอาดกว่า โหลดเร็วกว่า และไม่เจอปัญหา duplicate tag จากปลั๊กอิน SEO ซ้อนกัน
จากทุกเคสที่เราทำ: PageSpeed ของ Webflow ชนะ WordPress แบบไม่ต้อง optimize เพิ่ม
ถ้าเป็นฟีเจอร์ที่ "จำเป็นจริง" สำหรับ Conversion → ทำได้ 100% และถ้าเกินขอบเขต Webflow → เราสามารถเชื่อม API หรือฝั่ง Custom Code ให้
ถ้ามองแค่ค่าระบบ: แพง แต่ถ้ามองค่าแรง, เวลาที่เสียไป, ปัญหาที่ต้องซ่อม และ Conversion ที่เพิ่มขึ้น → คุ้มกว่า WordPress อย่างชัดเจน
เหมาะ “ถ้าคุณเน้น UX และอยากให้เว็บขายของรู้สึกเหมือน Apple มากกว่า Lazada” (แต่ถ้าต้องการระบบ stock/backoffice ซับซ้อนมาก → Shopify หรือ Woo อาจดีกว่า)
ไม่เลย — เจ้าของธุรกิจหลายคนดูแลเว็บไซต์เองได้ภายใน 3 วันหลัง Training กับเรา
ไม่ตก แต่ทำงานได้ “เร็วขึ้น 3 เท่า” และมีเวลาโฟกัสที่ Core Function จริง ๆ แทนที่จะมาติด Debug WordPress Plugin
ไม่ยาก เรามีระบบย้าย Content + CMS + SEO + Backlink ให้ครบ → ไม่เสียอันดับ Google แน่นอน
มีเยอะมาก — 80% ของลูกค้าที่เราย้ายจาก WordPress มา Webflow Conversion โตขึ้นเฉลี่ย 3–10X ภายใน 90 วัน
รองรับดีเยี่ยม ทั้งเรื่องฟอนต์, การแสดงผล, และ SEO ภาษาไทย — เพราะทีมเราปรับตั้งค่าทุกจุดให้เหมาะกับภาษาไทย 100%
ไม่เลย Webflow มีระบบ Editor แยกจาก Dev → ลูกค้าสามารถแก้คอนเทนต์ได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะโค้ด
Webflow ไม่มีแบบ default แต่เราสามารถเชื่อมระบบ External เช่น Memberstack, Outseta, Firebase ให้ได้ครบ
ใช้ได้ และถ้าอยากรองรับหลายภาษา → เราเชื่อมระบบ Multi-language ให้ได้แบบ SEO-friendly
Webflow มี CMS ที่ใช้ง่ายกว่าของ WordPress มาก และโครงสร้างไม่พังเมื่ออัปเดต Theme/Plugin
ง่ายที่สุดคือ: ถ้าเว็บคุณคือ Branding + Conversion → Webflow ชนะ
ถ้าเว็บคุณคือ Platform + System Complexity → WordPress ยังเหมาะกว่า
หรือให้เราวิเคราะห์ให้ฟรีก่อนเริ่มก็ได้
❓ยังมีคำถามติดอยู่ในใจ? อย่าปล่อยให้ข้อสงสัยชะลอการเติบโตของคุณ!
เรายินดีช่วยประเมิน พร้อมให้คำแนะนำแบบโปร ไม่ขายของจนคุณอึดอัด
เพราะบางที…แค่คำตอบเดียว ก็ทำให้คุณตัดสินใจเปลี่ยนเกมธุรกิจได้ง่ายขึ้น
🔥 เว็บไซต์ที่ดี = ธุรกิจเติบโต! พร้อมให้ธุรกิจคุณธุรกิจโตไว 10X!
ก่อนปรับ UX คนเข้าเว็บแล้วออกเลยค่ะ แต่พอรีดีไซน์ใหม่ กลายเป็นจุดที่ปิดการขายได้ดีที่สุดแทน!

หลังจากเปลี่ยนเว็บไซต์กับ Vision X Brain ผู้ใช้งานกล้ากดทดลองระบบตั้งแต่หน้าแรก — ไม่ต้องตาม โทร หรืออธิบายซ้ำอีก

หลังรีดีไซน์กับ Vision X Brain ลูกค้าระดับองค์กรเริ่มเข้ามาจองงานผ่านเว็บไซต์เอง — ไม่ต้องพึ่งคอนเนคชั่นเหมือนก่อน

เปลี่ยนเว็บกับ Vision X Brain แค่ไม่กี่วัน ลูกค้าใหม่เริ่มเข้าใจธุรกิจเราทันที

หลังรีแบรนด์กับ Vision X Brain ยอดขายพุ่ง x3 ภายใน 2 เดือน!

ได้เลยครับ