รับมือ "Content Decay": วิธีฟื้นฟูบทความเก่าให้กลับมาสร้าง Traffic และ Lead อีกครั้ง

ปัญหาที่เจอจริงในชีวิต
ทีมคอนเทนต์หรือเจ้าของธุรกิจทุกคนน่าจะเคยรู้สึกแบบนี้...คุณทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างบทความชิ้นหนึ่งขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน มันเคยเป็น "ดาวเด่น" ที่สร้าง Traffic มหาศาล, ติดอันดับ Top 3 บน Google, และเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า (Lead) ชั้นดีให้กับธุรกิจของคุณ แต่แล้ววันหนึ่ง...ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป ยอด Traffic ที่เคยพุ่งสูงค่อยๆ ดิ่งลง, อันดับที่เคยสวยหรูก็ตกลงไปอยู่หน้าสอง...หน้าสาม, และเสียง "กริ๊ง" จาก Lead ใหม่ก็เงียบหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง ความรู้สึก "เสียดาย" และ "เสียของ" ก็เริ่มเกาะกุมหัวใจ "บทความที่เราเคยปั้นมากับมือ...ทำไมมันถึงตายจากไปดื้อๆ แบบนี้?" นี่คือสัญญาณอันตรายของ "Content Decay" ที่กำลังเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญที่สุดของคุณครับ
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพกราฟเส้นที่แสดงยอด Traffic ของบทความที่เคยพุ่งสูงแล้วค่อยๆ ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีรูปคนนั่งกุมขมับมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความผิดหวัง สื่อถึงความรู้สึกของการเห็นคอนเทนต์ที่เคยรุ่งเรืองกำลังเสื่อมถอย
ทำไมถึงเกิดปัญหานั้นขึ้น
Content Decay หรือ "ภาวะคอนเทนต์เสื่อมถอย" ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคุณทำอะไรผิดพลาดเสมอไปครับ แต่มันเป็น "วัฏจักรธรรมชาติ" ของโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ลองนึกภาพตามนะครับ บทความของคุณก็เหมือนสินค้าที่เคยสดใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้มัน "หมดอายุ" ในสายตาของทั้งผู้ค้นหาและ Google สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คอนเทนต์ของคุณเงียบเหงาก็คือ:
- ข้อมูลเก่าและล้าสมัย: บทความ "เทรนด์การตลาดปี 2023" ย่อมไม่มีใครอยากอ่านในปี 2025 หรือสถิติต่างๆ ที่คุณอ้างอิงอาจมีตัวเลขใหม่ที่ดีกว่าออกมาแล้ว
- คู่แข่งหน้าใหม่ที่ทำได้ดีกว่า: คู่แข่งของคุณอาจสร้างบทความในหัวข้อเดียวกัน แต่ให้ข้อมูลที่ "ใหม่กว่า", "ลึกกว่า", หรือ "เข้าใจง่ายกว่า" ทำให้ Google เลือกที่จะแสดงผลงานของพวกเขาแทน
- Algorithm ของ Google เปลี่ยนแปลง: สิ่งที่ Google เคยให้ความสำคัญในวันวาน อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ การอัปเดต Algorithm ครั้งใหญ่อาจทำให้โครงสร้างหรือเนื้อหาแบบเดิมของคุณไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
- ความคาดหวังของผู้ใช้เปลี่ยนไป (Search Intent Shift): ผู้คนอาจจะไม่ได้มองหาแค่ "บทความ" อีกต่อไป แต่อาจจะมองหา "วิดีโอ", "เครื่องมือคำนวณ", หรือ "Template" ซึ่งบทความของคุณไม่มีให้
- ลิงก์เสีย (Broken Links): ลิงก์ภายในหรือภายนอกที่คุณเคยใส่ไว้ใช้งานไม่ได้แล้ว ซึ่งส่งผลเสียต่อประสบการณ์ผู้ใช้และความน่าเชื่อถือในสายตา Google
การทำความเข้าใจต้นตอเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการวาง content decay strategy ที่จะปลุกชีพจรบทความเก่าของคุณให้กลับมาอีกครั้ง
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพอินโฟกราฟิกที่แสดงสาเหตุ 5 ข้อของ Content Decay เป็นไอคอนที่เข้าใจง่าย (เช่น ปฏิทินเก่า, กราฟแท่งของคู่แข่งที่สูงกว่า, ไอคอนรูปเฟืองของ Google, รูปคนคิดพร้อมเครื่องหมายคำถาม, ไอคอนโซ่ที่ขาด) จัดวางรอบๆ คำว่า "Content Decay" ที่อยู่ตรงกลาง
ถ้าปล่อยไว้จะส่งผลยังไงบ้าง
การเมินเฉยต่อภาวะ Content Decay ก็เหมือนกับการปล่อยให้ "สนิม" ค่อยๆ กัดกิน "สินทรัพย์" ที่มีค่าของคุณไปเรื่อยๆ ครับ ผลกระทบที่ตามมานั้นเจ็บปวดกว่าที่คิด และมันไม่ใช่แค่การเสีย Traffic เพียงอย่างเดียว แต่ยังลุกลามไปถึงส่วนอื่นๆ ของธุรกิจด้วย:
- สูญเสีย Organic Traffic อย่างถาวร: Traffic ที่เคยได้มาฟรีๆ จาก Google จะลดลงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีวันกลับมาถ้าไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง
- อันดับ Keyword สำคัญร่วงลง: คุณจะสูญเสียตำแหน่งบนหน้าแรกของ Google ให้กับคู่แข่ง ซึ่งหมายถึงการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจมหาศาล
- จำนวน Lead และยอดขายลดลง: เมื่อ Traffic และอันดับหายไป จำนวนผู้ที่สนใจสินค้าหรือบริการของคุณ (Lead) ก็จะลดลงตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อยอดขายโดยตรง
- เสียโอกาสจาก Backlink เดิม: Backlink คุณภาพที่เคยชี้มายังบทความนั้นๆ จะค่อยๆ "ด้อยค่า" ลง เพราะมันกำลังลิงก์มายังหน้าที่เนื้อหาไม่สดใหม่และไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป
- ทำลายประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ: หากผู้ใช้คลิกเข้ามาเจอข้อมูลที่เก่าเก็บ ไม่ถูกต้อง หรือลิงก์เสีย พวกเขาจะมองว่าแบรนด์ของคุณ "ไม่ใส่ใจ" และ "ไม่น่าเชื่อถือ" ซึ่งอาจทำให้พวกเขาไม่กลับมาที่เว็บของคุณอีกเลย
การปล่อยให้บทความดีๆ ตายไปเฉยๆ จึงเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า การเรียนรู้เทคนิค การนำคอนเทนต์เก่ามาใช้ใหม่ (Repurpose Content) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการต่อยอดสินทรัพย์เดิมของคุณก่อนที่มันจะสายเกินไป
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพเปรียบเทียบ Before-After ด้านซ้ายเป็นภาพต้นไม้ที่เขียวชอุ่มมีผลเต็มต้นติดป้ายว่า "Peak Traffic" ด้านขวาเป็นภาพต้นไม้เดียวกันแต่กำลังแห้งเหี่ยว ใบไม้ร่วงหล่น ผลเน่าเสีย ติดป้ายว่า "Content Decay" เพื่อสื่อถึงผลกระทบของการปล่อยปละละเลย
มีวิธีไหนแก้ได้บ้าง และควรเริ่มจากตรงไหน
ข่าวดีก็คือ Content Decay ไม่ใช่จุดจบครับ! เราสามารถฟื้นคืนชีพให้บทความเก่ากลับมา "ทรงพลัง" ยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยกลยุทธ์ที่เรียกว่า "Content Relaunch" หรือการ "ปล่อยของใหม่" ในร่างเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่เว็บไซต์ชั้นนำอย่าง Backlinko แนะนำและใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ขั้นตอนหลักๆ ที่คุณสามารถเริ่มได้ทันทีมีดังนี้ครับ:
ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาบทความที่กำลัง "ป่วย" (Identify Decaying Content)
- ใช้ Google Analytics (GA4) เพื่อหาหน้าที่เคยมี Traffic สูง แต่ในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
- ใช้ Google Search Console (GSC) ดูรายงาน Performance เพื่อหาหน้าที่มียอด Impressions และ Clicks ลดลง หรืออันดับเฉลี่ย (Average Position) ต่ำลง
ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์และตัดสินใจ (Analyze and Decide)
เมื่อได้รายชื่อบทความที่กำลังจะตายมาแล้ว ให้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม:
- ฟื้นฟูและปล่อยใหม่ (Update & Relaunch): สำหรับบทความที่ยังคงมีคุณค่าเชิงกลยุทธ์ ยังตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และเคยมี Backlink ที่ดี
- ตัดทิ้ง (Prune): สำหรับบทความที่เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีกต่อไป, คุณภาพต่ำมาก, หรือไม่เคยสร้าง Traffic เลย การทำ Content Pruning อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ภาพรวมของเว็บไซต์ดีขึ้น
- รวมและทำใหม่ (Consolidate & Repurpose): สำหรับบทความหลายๆ ชิ้นที่พูดถึงเรื่องคล้ายๆ กัน สามารถนำมารวมเป็นบทความหลัก (Pillar Page) ที่สมบูรณ์เพียงชิ้นเดียว เพื่อสร้าง Topic Clusters ที่แข็งแกร่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 3: ลงมือ "ผ่าตัดใหญ่" (The Content Relaunch Process)
สำหรับบทความที่คุณเลือกจะ "ฟื้นฟู" ให้ทำตามนี้:
- อัปเดตข้อมูลให้สดใหม่ (Refresh): แก้ไขปี, เพิ่มสถิติใหม่, ลบข้อมูลที่ใช้ไม่ได้แล้ว, และเพิ่มหัวข้อใหม่ๆ ที่ทันสมัยเข้าไป
- ปรับปรุง Keyword (Re-optimize): ค้นหา Keyword รอง หรือ Long-tail Keyword ใหม่ๆ ที่คนกำลังค้นหา แล้วนำมาสอดแทรกในเนื้อหาและหัวข้ออย่างเป็นธรรมชาติ
- ยกเครื่อง On-Page SEO: เขียน Meta Title และ Description ใหม่ให้น่าคลิกกว่าเดิม, ปรับปรุงโครงสร้างหัวข้อ (H2, H3) ให้อ่านง่ายขึ้น
- ปรับปรุง UX และ Media: เพิ่มรูปภาพใหม่, อินโฟกราฟิก, หรือฝังวิดีโอเข้าไปเพื่อทำให้บทความน่าสนใจและอยู่ได้นานขึ้น
- ซ่อมและสร้างสะพาน (Link Audit): แก้ไข Broken Link ทั้งหมด และเพิ่ม Internal Link ไปยังบทความใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง External Link ไปยังแหล่งอ้างอิงคุณภาพสูงที่น่าเชื่อถือ
นี่คือหัวใจของ content decay strategy ที่จะเปลี่ยนบทความที่โลกลืมให้กลับมาเป็นดาวเด่นบนหน้าแรกของ Google อีกครั้ง
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพอินโฟกราฟิกแบบ Step-by-Step แสดงกระบวนการ Content Relaunch เริ่มจาก Step 1 (แว่นขยายส่องกราฟ), Step 2 (แผนภาพการตัดสินใจ), และ Step 3 (ไอคอนรูปเครื่องมือแพทย์ เช่น มีดผ่าตัด, เข็มฉีดยา กำลังปรับปรุงชิ้นส่วนของบทความ) เพื่อให้เห็นภาพรวมของกลยุทธ์
ตัวอย่างจากของจริงที่เคยสำเร็จ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองดูเรื่องราวของบริษัท Tech แห่งหนึ่งที่เคยมีบทความ "สุดยอดโปรแกรมบัญชีสำหรับ SME ปี 2022" เป็นตัวทำเงินหลัก บทความนี้เคยติดอันดับ 1 และสร้าง Lead ให้ทีมเซลส์อย่างต่อเนื่อง แต่พอเข้าสู่ปี 2024 Traffic ก็เริ่มดิ่งวูบ อันดับตกไปอยู่หน้า 2 เพราะคู่แข่งออกบทความ "ประจำปี 2024" ที่ใหม่และดีกว่ามาสู้
ภารกิจฟื้นคืนชีพ: แทนที่จะเขียนบทความใหม่ พวกเขาตัดสินใจใช้กลยุทธ์ "Content Relaunch" กับ URL เดิมที่มี Backlink คุณภาพอยู่แล้ว
- สิ่งที่ทำ:
- เปลี่ยนชื่อบทความเป็น "อัปเดตล่าสุด: 10 สุดยอดโปรแกรมบัญชีสำหรับ SME ปี 2025"
- รีวิวโปรแกรมต่างๆ ใหม่ทั้งหมด เพิ่มฟีเจอร์ล่าสุด และลบโปรแกรมที่เลิกให้บริการแล้วออกไป
- สร้าง "ตารางเปรียบเทียบ" ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- เพิ่มวิดีโอสั้นๆ สอนการใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรมยอดนิยม 3 อันดับแรก
- อัปเดต Internal Link ให้ชี้ไปยังบทความรีวิวเชิงลึกอื่นๆ ที่เพิ่งเขียนขึ้น
- เปลี่ยนวันที่เผยแพร่เป็น "Last Updated: [เดือนปัจจุบัน], 2025"
ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง: เพียง 2 เดือนหลังจาก Relaunch บทความเก่าในร่างใหม่ อันดับ Keyword หลักพุ่งกลับมาติด Top 3, Organic Traffic เพิ่มขึ้นกว่า 120% และที่สำคัญคือ "จำนวน Lead คุณภาพ" ที่กรอกฟอร์มเข้ามา "เพิ่มขึ้นถึง 80%" เพราะบทความให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาได้จริงๆ นี่คือพลังของการไม่ปล่อยให้คอนเทนต์ดีๆ ต้องตายไป แต่เลือกที่จะ ปรับปรุงและฟื้นฟูเว็บไซต์ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพกราฟ 2 เส้นเปรียบเทียบกัน เส้นหนึ่งเป็นสีเทาเขียนว่า "Before Relaunch" แสดง Traffic ที่กำลังดิ่งลง อีกเส้นเป็นสีเขียวสดใสเขียนว่า "After Relaunch" แสดง Traffic ที่พุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน พร้อมมีไอคอนรูปถ้วยรางวัลอยู่บนยอดกราฟสีเขียว
ถ้าอยากทำตามต้องทำยังไง (ใช้ได้ทันที)
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงอยากลงมือฟื้นฟูบทความของตัวเองแล้วใช่ไหมครับ? ไม่ต้องรอช้า! ลองใช้ Checklist ง่ายๆ นี้ไป "ตรวจสุขภาพ" คอนเทนต์ของคุณได้ทันที:
- เปิด Google Analytics: ไปที่ Reports > Engagement > Pages and screens แล้วตั้งช่วงเวลาเป็น "ปีที่แล้ว" (Last year) เพื่อหา 10-20 บทความที่เคยมี Traffic สูงสุดของคุณ
- เช็กแนวโน้มปัจจุบัน: เลือกบทความอันดับหนึ่งจากข้อที่แล้ว และเปลี่ยนช่วงเวลาเป็น "6 เดือนล่าสุด" (Last 6 months) คุณเห็นกราฟที่กำลังดิ่งลงหรือไม่? ถ้าใช่...คุณเจอผู้ป่วยรายแรกแล้ว!
- ส่องกระจกดูคู่แข่ง: นำ Keyword หลักของบทความนั้นไปค้นหาบน Google แล้วดูว่า 3 อันดับแรกที่แสดงผลตอนนี้ เขาทำอะไรได้ดีกว่าคุณ? (เช่น ข้อมูลใหม่กว่า, มีวิดีโอ, มีตารางเปรียบเทียบ) จดทุกอย่างที่คุณไม่มี
- วางแผน Relaunch: ตั้งเป้าหมายง่ายๆ ว่า "ภายในเดือนนี้ ฉันจะฟื้นฟูบทความนี้" โดยนำข้อมูลจากข้อ 3 มาเป็นแนวทางในการอัปเดต ตั้งเป้าว่าจะเขียนเพิ่มหรือแก้ไขเนื้อหาเก่าอย่างน้อย 30-40%
- สร้างเครือข่ายภายใน: ขณะที่แก้ไข ลองหาบทความใหม่ๆ ในเว็บของคุณอย่างน้อย 2-3 บทความที่สามารถทำ Internal Link จากบทความที่กำลังฟื้นฟูนี้ไปหาได้ เพื่อส่งต่อพลัง SEO หากัน
- วัดผลและเรียนรู้: หลังจาก Relaunch ไปแล้ว 1-2 เดือน ให้กลับมาดูข้อมูลใน Google Search Console เพื่อดูว่า Impressions, Clicks และ อันดับเฉลี่ยดีขึ้นหรือไม่
การเริ่มต้นจากขั้นตอนเล็กๆ ที่วัดผลได้ จะทำให้การรับมือ Content Decay ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป แต่เป็นโอกาสในการพัฒนา เว็บไซต์องค์กร ของคุณให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ครับ
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพ Checklist ที่สวยงามและอ่านง่าย มีหัวข้อว่า "My Content Relaunch Plan" พร้อมไอคอนประกอบในแต่ละข้อ (เช่น ไอคอนกราฟ, แว่นขยาย, ถ้วยรางวัล, ปฏิทิน) ทำให้ดูเหมือนเป็นเครื่องมือที่นำไปใช้งานได้จริง
คำถามที่คนมักสงสัย และคำตอบที่เคลียร์
ถาม: เราควรตรวจสอบ Content Decay บ่อยแค่ไหน?
ตอบ: สำหรับบทความที่สำคัญมากๆ หรือเป็น "เสาหลัก" ในการทำเงิน (Pillar Content) แนะนำให้ตรวจเช็กทุกๆ ไตรมาส (3 เดือน) ครับ ส่วนบทความทั่วไป การตรวจสอบปีละครั้งก็เพียงพอแล้ว
ถาม: เขียนบทความใหม่เลย กับ อัปเดตของเก่า แบบไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ถ้าบทความเก่านั้นมี URL ที่ "เคยติดอันดับ" หรือมี Backlink อยู่แล้ว การ "อัปเดตของเก่า" (Content Relaunch) จะเห็นผลลัพธ์ทาง SEO ได้เร็วกว่าและดีกว่าการไปสร้าง URL ใหม่นับหนึ่งเสมอครับ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์จาก Animalz ได้อธิบายไว้
ถาม: การเปลี่ยนวันที่เผยแพร่บทความส่งผลเสียต่อ SEO ไหม?
ตอบ: ไม่เลยครับ! ในทางกลับกัน การเปลี่ยนสถานะเป็น "อัปเดตล่าสุดเมื่อ..." (Last Updated on...) เป็นสัญญาณที่ดีที่บอกทั้ง Google และผู้อ่านว่าข้อมูลในหน้านี้ "สดใหม่" และ "น่าเชื่อถือ" ซึ่งเป็นผลดีต่ออันดับอย่างมาก
ถาม: อะไรคือความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง "Pruning" (ตัดทิ้ง) กับ "Relaunching" (ฟื้นฟู)?
ตอบ: จำง่ายๆ ครับ "Relaunching" คือการทำให้ "ของดี" กลับมา "ดีกว่าเดิม" เหมาะสำหรับบทความที่มีศักยภาพแต่เก่าไป ส่วน "Pruning" คือการ "กำจัดของเสีย" หรือบทความที่ไม่มีคุณภาพ, ไม่สร้างประโยชน์, และฉุดรั้งคุณภาพโดยรวมของเว็บไซต์ การทำ Log File Analysis สามารถช่วยให้เห็นภาพว่า Googlebot เข้ามาดูหน้าไหนบ่อยๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
--[Prompt สำหรับภาพประกอบ]--
Prompt: ภาพตัวการ์ตูน 2 ตัวกำลังคุยกัน ตัวหนึ่งทำหน้าสงสัยพร้อมมีเครื่องหมาย "?" เหนือหัว อีกตัวหนึ่งทำหน้ามั่นใจพร้อมไอคอนหลอดไฟสว่างวาบ สื่อถึงการถาม-ตอบที่เคลียร์ข้อสงสัย
สรุปให้เข้าใจง่าย + อยากให้ลองลงมือทำ
Content Decay คือความจริงที่ไม่มีใครหนีพ้นในโลก SEO แต่มันไม่ใช่ "คำพิพากษา" ให้คอนเทนต์ของคุณต้องตายจากไปครับ ในทางกลับกัน มันคือ "สัญญาณเตือน" ที่บอกให้เราหันกลับมาดูแล "สินทรัพย์" ที่เราเคยสร้างไว้ บทความเก่าที่เคยสร้าง Traffic และ Lead เปรียบเสมือน "ที่ดินผืนงาม" ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว การฟื้นฟูด้วยกลยุทธ์ Content Relaunch ก็เหมือนกับการ "รีโนเวทบ้านเก่า" บนที่ดินผืนนั้นให้กลับมาสวยงาม ทันสมัย และมีมูลค่าสูงกว่าเดิมเสียอีก
อย่าปล่อยให้ความพยายามในอดีตของคุณสูญเปล่าครับ ได้เวลาเปลี่ยนบทความที่โลกลืมให้กลับมาเป็นเครื่องมือทำการตลาดที่ทรงพลังอีกครั้ง ลองนำ Checklist ที่เราให้ไปลงมือทำกับบทความของคุณสัก 1 ชิ้นในวันนี้ แล้วคุณจะทึ่งกับผลลัพธ์ที่ซ่อนอยู่ในคอนเทนต์เก่าๆ ของคุณ!
พร้อมที่จะปลุกชีพจรให้เว็บไซต์ของคุณกลับมาสร้าง Traffic และ Lead อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแล้วหรือยัง? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูและปรับปรุงเว็บไซต์ของเราได้ฟรี! เราพร้อมช่วยคุณวาง content decay strategy ที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ
Recent Blog

เจาะลึกเบื้องหลังเคสรีดีไซน์เว็บไซต์ให้ SaaS Startup โดยใช้หลัก CRO และ UX เพื่อเพิ่ม Conversion Rate และจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งาน

แจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไซต์แต่ละประเภท ตั้งแต่เว็บ SME, Corporate, E-Commerce ไปจนถึงเว็บ Custom พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา

อธิบายหลักการของ Information Architecture (IA) หรือสถาปัตยกรรมข้อมูล ว่าช่วยจัดระเบียบเนื้อหาและเมนูบนเว็บให้ผู้ใช้หาข้อมูลเจอง่ายได้อย่างไร