🔥 แค่ 5 นาที เปลี่ยนมุมมองได้เลย

Cynefin Framework: กรอบความคิดในการตัดสินใจเมื่อเจอปัญหาที่ไม่คาดคิด

ยาวไป อยากเลือกอ่าน?

Cynefin Framework ช่วยแยกบริบทปัญหาเป็น 5 โดเมน—Obvious, Complicated, Complex, Chaotic, Disorder—เพื่อเลือกวิธีตัดสินใจที่เหมาะสม: Best Practice, พึ่งผู้เชี่ยวชาญ, ทดลองเชิงสำรวจ (probe), หรือสั่งการฉุกเฉิน แล้วรับรู้สัญญาณ–ปรับวิธีให้สอดคล้องความไม่แน่นอนของงาน

Cynefin Framework สำหรับการตัดสินใจ: ใช้อย่างไรให้ทีมดิจิทัลตัดสินใจเร็วและแม่น

แนวคิดสั้น จุดแข็งของ Cynefin คือ “จำแนกบริบทก่อนตัดสินใจ” ทำให้เราไม่ใช้ Best Practice ผิดที่ ไม่ไปทดสอบยาวในโจทย์ที่คำตอบชัด และไม่ประชุมยืดยาวในสถานการณ์วิกฤตที่ต้องสั่งการทันที

โดเมนทั้ง 5 แบบย่อ

  • Obvious/Clear: สาเหตุ–ผลลัพธ์ชัด ทำตามขั้นตอนมาตรฐาน (Best Practice)
  • Complicated: มีหลายคำตอบที่ “ถูก” พึ่งผู้เชี่ยวชาญ/วิเคราะห์เชิงระบบ (Good Practice)
  • Complex: ความสัมพันธ์ไม่เส้นตรง ต้อง Probe → Sense → Respond ทดสอบเล็กๆ หลายทาง
  • Chaotic: ไม่มีรูปแบบ ช่วงวิกฤต Act → Sense → Respond คุมความเสียหายก่อน
  • Disorder: ยังไม่รู้เราอยู่โดเมนไหน ต้องเก็บสัญญาณ แยกชิ้นงาน แล้วจัดเข้าบริบท

ตาราง: จับอาการงานจริง → จัดเข้าบริบท → วิธีตัดสินใจ

โดเมน สัญญาณ/อาการ วิธีตัดสินใจ ตัวอย่าง (เว็บ/ดิจิทัล)
Obvious งานซ้ำๆ ขั้นตอนชัด คุณภาพวัดได้ง่าย ใช้ SOP/Checklist, Automate ได้ ตั้งค่า GA4/Tag Manager มาตรฐาน, 301 Redirect แบบรูปแบบคงที่
Complicated มีทางเลือกหลายแบบ ต้องวิเคราะห์/เปรียบเทียบ งานผู้เชี่ยวชาญ, วิเคราะห์เชิงเทคนิค ออกแบบสคีมา JSON-LD หลายชนิด, วางสถาปัตยกรรมข้อมูล
Complex พฤติกรรมผู้ใช้/ตลาดผันผวน ผลลัพธ์คาดเดายาก ทดลองเล็กหลายแนว, ฟังสัญญาณ แล้วขยาย A/B ทดสอบฮีโร่/ข้อความ, ทดลองข้อเสนอ/แพ็กเกจ
Chaotic วิกฤตเวลาจำกัด ระบบล่ม/ข่าวร้ายกระทบทันที สั่งการฉุกเฉิน ยุติความเสียหาย แล้วค่อยปรับ ปิดฟีเจอร์/รีไดเรกต์ชั่วคราว, เปิดหน้าแจ้งเหตุขัดข้อง
Disorder ถกเถียงไม่สิ้นสุด คนละกรอบคิด ข้อมูลกระจัด แยกชิ้นงาน เก็บสัญญาณ จัดเข้าบริบทที่ถูก แยกงาน “ย้าย CMS” (Complicated) ออกจาก “ข้อเสนอหน้าแรก” (Complex)

How-To: นำ Cynefin ไปใช้ในโปรเจกต์เว็บไซต์ภายใน 1 สปรินต์

  1. ทำแผนที่งาน: รวบรวมงานหลัก/ปัญหา/ความเสี่ยง แปะบอร์ด
  2. จำแนกโดเมน: ให้ทีมติดสติกเกอร์ว่า Obvious/Complicated/Complex/Chaotic
  3. กำหนดวิธี: Obvious= SOP, Complicated= วิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ, Complex= ทดลอง, Chaotic= คุมไฟ
  4. ตั้งตัวชี้วัด: สำหรับ Complex เลือกสัญญาณเชิงพฤติกรรม (CTR/Lead/INP)
  5. รันสปรินต์: ทำ–วัด–เรียนรู้ และย้ายการ์ดเมื่อสัญญาณเปลี่ยน

หลุมพรางที่พบบ่อย

  • ยัดทุกอย่างเป็น Obvious แล้วข้ามการทดลองในโจทย์ Complex
  • ถกนานในสถานการณ์ Chaotic แทนที่จะ “สั่งการก่อน–วัดผล–ปรับ”
  • มั่วบริบท (Disorder) เพราะไม่มีสัญญาณ/ตัวชี้วัดร่วมกัน

บริการที่เกี่ยวข้อง (Internal Links)

อ่านต่อ (บทความที่เกี่ยวข้อง)

อ้างอิงภายนอก (E-E-A-T)

  • HBR — Snowden & Boone, “A Leader’s Framework for Decision Making” (2007): hbr.org
  • Cynefin Co / Cognitive Edge — Overview & Practice: cynefin.io, thecynefin.co
  • EU Field Guide to Managing Complexity (and Chaos): publications.jrc.ec.europa.eu
  • web.dev — Core Web Vitals (สัญญาณเชิงเทคนิคเมื่อทดลอง/ปรับหน้า): web.dev

FAQ (People Also Ask)

ต่างจากกรอบคิดอื่นอย่างไร?
Cynefin เน้น “จำแนกบริบทก่อนเลือกวิธี” จึงช่วยกันใช้วิธีผิดบริบท เช่น เอา Best Practice ไปใช้กับโจทย์ Complex ที่ควรทดลองก่อน

ต้องใช้ทุกโดเมนพร้อมกันไหม?
ไม่จำเป็น โปรเจกต์หนึ่งอาจมีงานหลายบริบท ควรแยกปรับวิธีต่อชิ้นงาน

เริ่มอย่างไรถ้ายังสับสน?
เริ่มที่การเก็บสัญญาณและสังเกตผลจากการทดลองเล็ก ๆ แล้วค่อยจัดเข้าบริบท ลดภาวะ Disorder

อัปเดตล่าสุด: 21 Aug 2025


เกี่ยวกับผู้เขียน

Vision X Brain Team — ทีม Website/SEO/CRO & Webflow เราช่วยทีมธุรกิจตัดสินใจด้วยข้อมูลและสัญญาณจริง ออกแบบการทดลองที่วัดผลได้ และปรับเว็บให้เร็ว คอนเวิร์ตสูง

แชร์

Recent Blog

ข้อดีของ responsive web design ที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้ ปี 2025

ค้นพบข้อดีของ responsive web design พร้อมเคล็ดลับเพิ่มยอดขายและสร้างประสบการณ์เว็บที่ดีกับลูกค้า เหมาะสำหรับธุรกิจออนไลน์ยุคใหม่ปี 2025

ข้อดีของ responsive web design ที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้ ปี 2025

ค้นพบข้อดีของ responsive web design พร้อมเคล็ดลับเพิ่มยอดขายและสร้างประสบการณ์เว็บที่ดีกับลูกค้า เหมาะสำหรับธุรกิจออนไลน์ยุคใหม่ปี 2025

การวิเคราะห์ UX/UI เบื้องต้น สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ทำเว็บไซต์ 2025